เนื้อและกระดูกป่น (meat and bone meal)
เนื้อและกระดูกป่นเป็นซากสัตว์ที่ไม่เหมาะสมที่ใช้เป็นอาหารมนุษย์ อาจเนื่องจากมีพยาธิหรือโรคบางอย่างได้จากการนำเนื้อและกระดูก ไม่รวมขน หนัง เขา กีบ เลือดและเครื่องใน แต่อาจมีเลือดปนลงไปด้วย (ทำให้มีโปรตีนสูงขึ้น) นำซากเหล่านั้นไปนึ่ง (steam) แล้วป่น ภายหลังจึงทำให้แห้ง โปรตีนค่อนข้างสูงประมาณ 55 – 60 เปอร์เซ็นต์ มีระดับธาตุฟอสฟอรัสต่ำกว่า 4.4 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่า เนื้อป่น (meat meal) แต่ถ้ามีเศษเนื้อปนน้อยและมีกระดูกปนมาก เปอร์เซ็นต์โปรตีนจะต่ำกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ ธาตุฟอสฟอรัสสูงกว่า 4.4 เปอร์เซ็นต์ จัดเป็นเนื้อกระดูกป่น (อุทัย คันโธ, 2529) การใช้อุณหภูมิสูงมากจะทำลายคุณค่าของกรดอะมิโนหลายชนิด ในอาหารผสมไม่ควรใช้เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นโปรตีนย่อยมาก มีส่วนประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) สูง ถ้าเป็นเนื้อป่น ชนิดไม่มีเลือดปน ปริมาณโปรตีนอยู่ระหว่าง 45 – 55 เปอร์เซ็นต์ การใช้เป็นอาหารสุกรไม่ควรเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของสูตรอาหาร และอาหารไก่ไม่ควรเกิน 7 – 10 เปอร์เซ็นต์
การผลิตเนื้อป่น นั้นผลิตมาจากเนื้อเหล่านี้
– เศษเหลือจากซาก
– ซากที่คุณภาพไม่ดี
– ตับและเครื่องในอื่น ๆ
– ไม่มี ขน กีบ เขา และหนังผสมอยู่
การผลิตเนื้อป่น
เศษเนื้อ เอ็น พังผืด และกระดูก ไม่รวมขน หนัง กีบ เขา และเลือด
นึ่งด้วยไอน้ำจนสุกแล้วอัดเอาน้ำและน้ำมันออกทำให้แห้ง
แล้วป่น
คุณค่าทางอาหาร
– โปรตีนไม่ต่ำกว่า 40 % แต่คุณภาพโปรตีนต่ำกว่าปลาป่นmet, try ต่ำใช้ในการเพิ่มโปรตีนรวมในอาหาร ช่วยเสริมกรดอะมิโนที่ขาดในแหล่งโปรตีนจากพืชสามารถใช้ทดแทนโปรตีนจากพืชได้ 5-10 %
– เป็นแหล่ง Ca, P, Mn
– เป็นแหล่งB – Complex : Riboflavine, Choline, Nicotinamide, B12แต่ขาด A, D panthotenic acid
การใช้เป็นอาหารของสัตว์
ลูกไก่ : แทนที่ปลาป่นได้ 2.5-3%
ไก่ไข่ : 4% ถ้ามากกว่านี้ต้องเสริม Met และ Vitamin
สุกร : แทนกากถั่วเหลืองได้ 5%
โคขุน : ใช้แทนกากถั่วเหลืองได้
โคนม : เป็นแหล่ง by-pass protein