
สวัสดีครับ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับปลาป่นกันครับ ปลาป่นนั้นใช้เป็นอาหารสัตว์อย่างมากในวงการปศุสัตว์ ถือว่าเป็นแหล่งโปรตีนและแหล่งอาหารที่ดีมากสำหรับสัตว์ เนื่องจากมีโปรตีนสูง ย่อยง่าย และใช้งานง่าย
ปลาป่น (fish meal)
ปลาป่นเป็นอาหารโปรตีนที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ผลิตจากปลาต่างๆ ที่ชาวประมงลากอวนติดมา เข่นปลาเป็ด ปลาตัวเล็กตัวน้อยต่างๆ นำมาบดป่นและสกัดน้ำมันออกแล้วทำให้แห้ง อาจมีทั้งเปลือกปู กุ้ง กั้ง หอย ปนมาด้วย
โดยเฉลี่ยแล้วปลาป่นจะมีโปรตีนประมาณ 50–65 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 5 – 8 เปอร์เซ็นต์ ความชื้น 8 – 10 เปอร์เซ็นต์ แร่ธาตุประมาณ 20 – 24 เปอร์เซ็นต์ เป็นแหล่งของวิตามิน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมากประมาณร้อยละ 5 – 8 เปอร์เซ็นต์และ 3 – 3.8 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
คุณภาพของปลาป่นขึ้นกับชนิดของปลา วัตถุปะปน ความสดของปลา ตลอดจนกรรมวิธีในการผลิตปลาป่น เช่น ถ้าให้ความร้อนสูง ปริมาณของกรดอะมิโนจะลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ความชื้นและไขมันทำให้เก็บรักษาปลาป่นไว้ไม่ได้นาน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราและเหม็นหืนได้ง่าย
ปลาป่นมีโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นที่สัตว์ต้องการค่อนข้างสูง มีวิตามินและแร่ธาตุมากมายและยังมีสารที่จำแนกไม่ได้ว่าเป็นชนิดใด แต่มีส่วนช่วยเสริมให้สัตว์เจริญเติบโต อย่างไรก็ตามปริมาณ การใช้ไม่ควรเกิน 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ ของสูตรอาหาร
คุณสมบัติหลักๆ ของปลาป่น
* โปรตีนประมาณ 50–65 เปอร์เซ็นต์
* ไขมัน 5 – 8 เปอร์เซ็นต์
* ความชื้น 8 – 10 เปอร์เซ็นต์
* แร่ธาตุประมาณ 20 – 24 เปอร์เซ็นต์
* วิตามิน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมากประมาณร้อยละ 5 – 8 เปอร์เซ็นต์และ 3 – 3.8 เปอร์เซ็นต์
เกลือที่ปนในปลาป่นทำให้สัตว์ท้องเสียได้ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป กลิ่นของเนื้อสัตว์ที่กินปลาป่นมากอาจมีกลิ่นปลาได้ ปลาป่นที่ผลิตจากปลาที่เน่าเสียอาจมีเชื้อซาเมเนลลา (Samonella spp.) ทำให้สัตว์ท้องเสียได้ อุจจาระร่วง หรือในบางครั้งถ้ามีเปลือกหอยปนมามากจากการปลอมปนเพื่อเพิ่มน้ำหนักอาหาร อาจทำให้สัตว์ได้รับแคลเซียมมากเกินไป ทำให้มีอาการคล้ายกับการขาดสังกะสีได้เพราะสัตว์ต้องการสังกะสีมากขึ้น นอกจากนี้อาจมีการปนขนไก่ป่นหรือยูเรียซึ่งทำให้ปริมาณไนโตรเจนสูงขึ้น เมื่อทำการวิเคราะห์จะพบว่ามีปริมาณโปรตีนสูง แต่ร่างกายสัตว์ใช้ประโยชน์ได้น้อยหรืออาจเป็นอันตราย บางครั้งมีการใช้ปลาเน่า เศษเหลือของปลา กระดูก หินและทรายปนมาด้วย การบรรจุลงในกระสอบขณะที่ยังร้อนอยู่ทำให้เกิดการไหม้ มีผลทำให้การใช้ประโยชน์ได้ของโปรตีนและกรดอะมิโนลดลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://elearning.nsru.ac.th/web_elearning/animal/lesson2_5.php